บทคัดย่อ
ชื่อผลงาน การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL)
เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางกุลณี นากแก้วเทศ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดคลองโพธิ์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์
อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL)ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้น โดยดำเนินการศึกษากับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลวัดคลองโพธิ์ ปีการศึกษา 2556 จำนวน 26 คน และปีการศึกษา 2557 จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ชุดกิจกรรมสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมจบในแต่ละชุด ชุดละ 10 ข้อ และใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมครบทั้ง 5 ชุด จำนวน 30 ข้อ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) ตรวจสอบคุณภาพด้านความเหมาะสมของชุดกิจกรรม คุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา ความยากง่าย อำนาจจำแนก และความเชื่อมั่น โดยใช้หลักการสร้างและตรวจสอบคุณภาพด้วยระบบอิงเกณฑ์ และคุณภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา อำนาจจำแนก และความเชื่อมั่น วิเคราะห์ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม โดยใช้เกณฑ์ E1/E2 เท่ากับ 70/70 ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบด้วยสถิติแบบ Dependent group t-test และแบบ
One group t-test ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความเหมาะสมในด้านเนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ และรูปแบบของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) ซึ่งประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.79 คะแนน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาในแต่ละรายการพบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกรายการโดยมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.60-5.00 คะแนน
2. คุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ใช้ทดสอบก่อนเรียนและ
หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมครบทั้ง 5 ชุด มีคุณภาพด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาโดยมีค่า IOC ตั้งแต่ 0.80-1.00 มีความยากง่ายตั้งแต่ 0.65-0.88 ซึ่งสูงกว่าค่า LCL (ค่าความยากง่ายต่ำสุดของแบบทดสอบแบบอิงเกณฑ์) ทุกข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25-0.60 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.8694
ส่วนแบบทดสอบหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมจบในแต่ละชุด ทั้ง 5 ชุด มีคุณภาพด้านความเที่ยงตรง
เชิงเนื้อหาโดยมีค่า IOC ตั้งแต่ 0.80-1.00 มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.65-0.92 ซึ่งสูงกว่าค่า LCL ทุกข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20-0.88 และมีค่าความเชื่อมั่นตั้งแต่ 0.8052-0.8585 ดังนั้นแบบทดสอบที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นจึงมีคุณภาพเป็นไปตามเกณฑ์ของวิเคราะห์คุณภาพในระบบอิงเกณฑ์
3. คุณภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรม
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่าแบบสอบถามฉบับนี้มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาโดยมีค่า IOC ตั้งแต่ 0.80-1.00 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.27-0.77 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.8299
4. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL)กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลวัดคลองโพธิ์ พบว่าชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ E1/E2 ปีการศึกษา 2550 เท่ากับ 81.87/80.27 ปีการศึกษา 2551 เท่ากับ 84.10/84.43 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80
5. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL)กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในครั้งนี้ พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 25.33 คะแนน สูงกว่าก่อนเรียนซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 18.67 คะแนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
6. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับเกณฑ์การประเมินร้อยละ 80 โดยนำคะแนนจากการทดสอบหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL)กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 25.33 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 84.43 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์การประเมินร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
7. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL)กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 คะแนน เมื่อพิจารณาความพึงพอใจในแต่ละรายการ พบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกรายการ โดยมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.52-4.81 คะแนน
|